ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโรงเรือนระบบอีแวปรวมถึงการออกแบบโรงเรือน
โรงเรือนระบบอีแวป (Evaporative cooling system)
ประเทศไทยเป็นประเทศเขตร้อนชื้น ทำให้การเลี้ยงสัตว์และการเพาะปลูกในโรงเรือนต้องเผชิญกับอุณหภูมิสูงและความชื้นที่ไม่คงที่ ปัญหานี้ส่งผลโดยตรงต่อผลผลิตและคุณภาพของสัตว์เลี้ยงหรือพืชผล ดังนั้นเทคโนโลยี โรงเรือนระบบอีแวป (Evaporative Cooling System) จึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ด้วยหลักการระบายอากาศและลดอุณหภูมิผ่าน พัดลมฟาร์ม (Exhaust Fan) และ แผ่นคูลลิ่งแพด (Cooling Pad) ทำให้ภายในโรงเรือนมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต
บทความนี้ไว้แบ่งปันความรู้กันครับ
ถ้าถูกใจ ฝากกดติดตาม FB แฟนเพจด้วยนะครับ >>>> คลิ๊ก
(อยากรู้จักเราเข้ามาส่องดูผลงานได้ครับ !! )
โรงเรือนระบบอีแวปใช้หลักการ การระเหยของน้ำ (Evaporation) เพื่อลดอุณหภูมิอากาศ อากาศร้อนจากภายนอกจะไหลผ่าน คูลลิ่งแพด ซึ่งมีน้ำไหลชุ่มอยู่บนพื้นผิว ทำให้น้ำดูดซับความร้อนและระเหยกลายเป็นไอ ส่งผลให้อากาศที่ผ่านเข้าสู่โรงเรือนมีอุณหภูมิต่ำลงและมีความชื้นเพิ่มขึ้น จากนั้นพัดลมฟาร์มจะดูดอากาศเย็นนี้หมุนเวียนทั่วทั้งโรงเรือน
เรามาเริ่มจากส่วนประกอบหลัก
1) โรงเรือน (House Structure) โครงสร้างที่สามารถควบคุมการไหลเวียนอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2) พัดลมดูดอากาศ (Exhaust Fan) ทำหน้าที่ดึงอากาศร้อนออกจากโรงเรือน
3) แผ่นคูลลิ่งแพด (Cooling Pad) เพิ่มความชื้นและลดอุณหภูมิอากาศ
4) ระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้น (Temperature & Humidity Controller) ตรวจวัดและสั่งการการทำงานของอุปกรณ์อัตโนมัติ
5) ปั๊มน้ำและถังเก็บน้ำ (Water Pump & Storage Tank) จ่ายน้ำให้คูลลิ่งแพดและเก็บน้ำสำรองสำหรับระบบ
โรงเรือน (House Structure)
หลังคา - หลังคาโรงเรือนจะแบ่งตามแบบหลังคาจั่วหรือหลังคาโค้ง หรือจะแบ่งตามแบบหลังคาทึบแสงหรือโปร่งแสง กัน UV ซึ่งขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการสร้างว่าข้างในเราจะทำอะไร แต่ถ้าจะทำโรงอีแวป แนะนำว่าไม่จำเป็นต้องทำหลังคาทรง กอ ไก่ หลายคนอาจจะไม่รู้หรือเห็นแต่ในรูป หลังคาทรงนี้ ส่วนใหญ่จะใช้ในระบบเปิดเพื่อระบายอากาศร้อนใต้หลังคา ซึ่งในความเป็นจริงระบบอีแวป จะไม่มีการระบายอากาศออกจากช่องทางอื่นเลย นอกจากระบายออกทางพัดลมดูด เพราะฉะนั้น ให้ไปใช้ทรงจั่วหรือโดมจะดีกว่า เพราะสร้างและดูแลง่ายกว่า อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัว
การวาง Lay Out - หลักการวางผังขั้นต้น 1) ประตู และช่องหน้าต่างไม่ควรอยู่ด้านเดียวกับ คูลลิ่งแพด หรือ พัดลมดูดอากาศ เพราะว่าจะทำให้เกิดจุดอับลมเย็น ทำให้ผลผลิตที่ได้ไม่สม่ำเสมอ 2) ด้านคูลลิ่งแพด ไม่ควรอยู่ทิศตะวันตก อันนี้มีผลต่อประสิทธิภาพการทำความเย็นโดยตรง เพราะอากาศทางเข้าจะมีอุณหภูมิสูง การที่จะลดอุณหภูมิได้ต่ำลงก็จะยากกว่าทิศอื่นๆ 3) ในการติดตั้งพัดลม ควรอยู่ระนาบตรงข้ามคูลลิ่งแพด เท่านั้น เพราะจะทำให้การทำงานของระบบอีแวป เต็มประสิทธิภาพที่สุด 4) การวางชั้น Shelf ถ้าเป็นไปได้ ไม่ควรวางขวางระนาบลม หน้าพัดลม ควรเว้นไว้เป็นช่องเพื่อที่พัดลมดูดอากาศ จะสามารถดึงลมเย็นหน้าก้อนแพดมาถึงด้านหลังโรงเรือนได้
พัดลมดูดอากาศ/พัดลมโรงงาน/ พัดลมอุตสาหกรรม/ พัดลมอีแวป (Exhaust Fan)


1) แรงดันไฟฟ้าเป็นแบบไหน 220V (ไฟบ้าน ) หรือ 380V (ไฟโรงงาน)
2) ต้องการขับด้วยมอเตอร์ หรือ เครื่องยนต์ฉุด
โครงสร้างพัดลมประกอบไปด้วย -โครงพัดลม เป็น เหล็กชุบกัลวาไนซ์ -ชุดหน้าแปลนใบพัด ใบพัด เป็นสแตนเลส 304 หรือ ใบพัดไฟเบอร์กลาส -ชัตเตอร์เปิด-ปิด -มอเตอร์ขับ เลือกได้ว่าต้องการเกรดไหน พัดลมอีแวปที่ทางบริษัทจำหน่ายจะมีตั้งแต่ 36-50นิ้ว เป็นรุ่น 6ใบพัดสแตนเลส โครงเป็นเหล็กชุบกัลวาไนซ์ ระบบไฟฟ้ามีให้เลือกได้ทั้ง 220V และ 380V มอเตอร์มีให้เลือกหลายรุ่น แต่สิ่งที่อยากจะแนะนำที่หลายๆคนไม่รู้คือ เรื่องค่า IP มอเตอร์ มอเตอร์ที่มักใช้ในระบบอีแวป ควรจะมีค่าIP ตั้งแต่ 54 ขึ้นไป
สนใจพัดลม 50นิ้ว >>> ดูรายละเอียด คลิ๊ก
เพราะหลายๆครั้งลูกค้าที่ซื้อพัดลมจากที่อื่นขอคำปรึกษาเรื่องมอเตอร์กับพบว่ามอเตอร์ที่ติดมามีค่า IP20กันเลยทีเดียว ซึ่งไม่สามารถกันความชื้นใดๆได้เลยซึ่งผลที่ตามมาคือมอเตอร์พังแบบไม่มีสาเหตุ !!
แผ่นคูลลิ่งแพด/เยื่อกระดาษ/แผ่นรังผึ้ง (Cooling Pad)


*ในส่วนของคูลลิ่งแพดชุบดำ หรือชุบผิว/เคลือบผิว อันนี้ผมจะไม่เน้นนะครับ เพราะในตลาดโรงเรือนอีแวปแล้ว ความต้องการหลักคือเรื่องการลดอุณหภูมิ กับ การทำความชื้นที่ได้ ซึ่งจุดประสงค์ของคูลลิ่งแพดแบบชุบผิวคือ การเพิ่มความคงทนของอายุการใช้งาน ซึ่งจะต้องแลกกับพื้นที่ผิวในการซับน้ำของเยื่อกระดาษ ผลที่ได้รับคือ อุณหภูมิลดไม่ลงเท่า คูลลิ่งแพด รุ่นกระดาษธรรมดา(ฺBrown Paper) เพราะฉะนั้นก่อนจะซื้อเราต้องรู้ก่อนว่า อยากได้อะไร แต่ส่วนใหญ่โรงเรือนอีแวป มักจะเลือกเรื่องการ ลดอุณหภูมิเป็นหลัก ซึ่งถ้าทางลูกค้าสนใจรุ่นชุบผิว ทางผมก็มีจำหน่ายนะครับ สนใจแบบไหนติดต่อได้เลย
ตู้คอนโทรล และ ระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้น (Temperature And Humidity Controller)

1) ระบบป้องกันไฟฟ้าขัดข้อง หรือ ตู้คอนโทรล / ตู้แม็กเนติกโอเวอร์โหลด หน้าที่หลักคือช่วยป้องกันสภาวะความผิดปกติของมอเตอร์ เช่นการกินกระแสเกินผิดปกติ อันเนื่องมาจากแรงดันไฟฟ้าตก หรือ ไฟฟ้าบางเฟสเกิดขัดข้อง ปัญหาเหล่านี้แม้เกิดเพียงครั้งเดียวก็อาจทำให้มอเตอร์ที่ขับพัดลมและปั๊มน้ำเสียหายได้เลย ซึ่งส่งผล ต่อผลผลิตโดยตรง ส่วนเรื่อง ราคาก็แล้วแต่ Option ในการใช้งานส่วนใหญ่เวลาสั่งประกอบต้องคุย รายละเอียดกันก่อน และทางบริษัทก็รับออกแบบตู้คอนโทรลระบบอีแวปตามความต้องการของลูกค้าด้วยนะครับ
2) ระบบควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น ผ่านเซ็นเซอร์ หรือเราจะเรียกว่า Temperature And Humidity Controller ซึ่งมีให้เลือกหลาย option มากๆ หลักๆ ที่ทางบริษัท เราจำหน่ายจะเป็นรุ่น AGB 904 (ขายดีมาก) ควบคุมพัดลม 9 จุด ปั๊มน้ำ 1 จุด แบบ step control มีฟังชั่นตั้งเปิดปิด ไฟแสงสว่าง รวมถึงมีระบบ อลามอุณหภูมิสูง/ต่ำ ความชื้นสูง และคู่มือที่เป็นภาษาไทยไว้ให้ฝึก เซ็ตค่ากันเองด้วย
ปั๊มน้ำและถังเก็บน้ำ (Water Pump And Storage Tank)
1)ปั๊มน้ำ ถ้าระบบโรงเรือนอีแวป จะใช้เป็นแบบปั๊มหอยโข่ง 1/2 hp - 2hp ควบคุมผ่านตู้คอนโทรลปั๊มน้ำหรือ Temperature controller อีกที หลักการเลือกขนาดปั๊มน้ำคูลลิ่งแพด เราต้อง รู้ Flow น้ำที่ใช้ก่อน รวมถึงระยะส่งและดูด รวมถึงขนาดท่อที่จะใช้ ซึ่งทางบริษัทเราก็รับออกแบบระบบให้เหมาะกับปั๊มที่จะใช้ รายละเอียดแนะนำให้โทรคุยครับ อันนี้ถือว่ายาวพอสมควร2) ถังเก็บน้ำ สิ่งที่สำคัญอันดับแรกคือ ควรจะต้องเป็น ถังฝังดิน และต้องมี ฝาปิดสนิท ทึบแสงจะดีมาก เพื่อป้องกันตะไคร่น้ําเกินขึ้นในระบบ เพราะตะไคร้น้ําจะส่งผลต่ออายุการใช้งานของคูลลิ่งแพดโดยตรง ซึ่งก็คือ มันจะทำให้คูลลิ่งแพด ตันนั่นเอง ทางที่ดี ควรมีการล้างถังบ้างในช่วงระยะเวลาที่เราไม่ใช้ระบบอีแวป เป็นการ PM ไปในตัว นะครับ ส่วนขนาดถังเก็บน้ำ ผมจะคำนวณจากการใช้น้ำของปั๊มน้ำ มันจะสัมพันธ์กับขนาดถังครับ อันนี้ก็แนะนำให้โทรคุยกันนะครับ
-การหาขนาดจำนวนพัดลม(แบบเร่งด่วน) หลักการคำนวณง่ายๆ ให้เริ่มจาก
1) กำหนดขนาดห้อง กว้าง x ยาว x สูง = ปริมาตรห้อง (Cum)
2) เลือกด้านที่จะติด Cooling pad และพัดลม โดยที่ด้านที่ติดตั้ง Cooling pad ไม่ควรอยู่ในทิศตะวันตก 3) คิดค่าถ่ายเทอากาศ ACH ถ้าภายในมีเรื่องของโหลดความร้อนเช่นเครื่องจักร ให้เพิ่มไปอีก20-30%
4) เอาปริมาตรห้อง x จำนวน ACH = flow rate พัดลม Cum/hr
-ส่วนเรื่องความเร็วลม ค่าความเร็วที่ใช้ในการออกแบบคือ 2-3 m/s หน้าคูลลิ่งแพด -ปั๊มน้ำควรเลือกขนาด Flow rate อัตราการไหล และ h pump ให้พอเหมาะตามจำนวนของก้อนคูลลิ่งแพด
-ชุดระบบ Controller ถ้าเป็นโรงเรือนระบบเล็กๆ พัดลมไม่เกิน 2-3ตัว แนะนำให้ใช้ ไทม์เมอร์ ในการควบคุม ร่วมกับ แม็กเนติก -โอเวอร์โหลด จะเหมาะกว่าการใช้ Temp Controller เพราะจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงไม่เหมาะแก่ผู้เริ่มต้น -ถังเก็บน้ำควรเป็นแบบฝังดิน หรือ ต้องวางได้ต่ำกว่ารางคูลลิ่งแพดด้านล่างเพื่อให้น้ำสามารถไหลกลับแท็งค์ได้
เรื่องการคำนวนแบบละเอียดให้โทรสอบถามได้ ที่เบอร์ 086-4406919 ผมวสุ จะให้คำตอบและคำแนะนำตามลักษณะงานที่จะใช้ครับ
สามารถดูสินค้า ทั้ง 6 สาขาทั่วประเทศ
นนทบุรี / โคราช / ร้อยเอ็ด / ลำพูน / สุราษฎร์ธานี / พิษณุโลก
กดเพื่อดูแผนที่ >> คลิ๊ก